V-Model
What is V-Model?
V-Model คือเเผนการพัฒนาซอฟเเวร์ ที่มีวัฏจักรในการทวนสอบ (Verification) เพื่อรับรองความถูกต้อง (Validation) เเละการทดลองผลิตภัณฑ์ (Product)หรือระบบ (System)
Steps to develop a system based on the V-Model principle
Requirement Definition : ระบุฟังก์ชั่นการทำงานและลักษณะเฉพาะที่จำเป็นก่อนออกแบบ สร้างและใช้งานจริง
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
Note :
ชนิดของ Requirement
Functional : บอกพฤติกรรมของระบบว่าต้องทำอะไรได้
Non Functional Requirement : เงื่อนไขที่ใช้เพื่อพัฒนาและการนำไปใช้ของระบบ
Performance : ระบบต้องทำพฤติกรรมใดๆด้วยสมรรถนะระดับไหน
Interface : ระบบต้องเชื่อมดะบอะไรได้บ้าง
Environmental : ระบบต้องทำงานในสภาพแวดล้อมแบบไหน
Physical : คุณสมบัติทางกายภาพ
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
Technical Requirement : แปลงความต้องการของลูกค้าให้เป็นความต้องการเชิงเทคนิคเพื่อนำไปใช้ในการกำหนดว่าระบบต้องทำอะไรได้บ้าง หรือก็คือการสร้างข้อตกลงระหว่างผู้ใช้และผู้พัฒนา
เมื่อทำการกำหนดความต้องการเชิงเทคนิค (Technical Requirement) จะทำให้ผู้พัฒนาเเละทีมสามารถทราบได้โดยคร่าวว่าระบบต้องทำอะไรได้บ้าง เกิดเป็น System Require
Architecture Design : ออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบเพื่อให้ตอบโจทย์ของความึต้องการ
Component Design : ทำการแจงรายละเอียดย่อยของระบบ จนได้เป็น Specification
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
Note :
Require คือการที่ระบบสามารถทำอะไรได้บ้าง
Specification คือการที่ระบบสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
Implement : ทำตามแผนจากการออกแบบและวางแผนในขั้นตอนก่อนหน้า เพื่อพัฒนาระบบให้ได้ตามเป้าหมาย
Component Test / Unit Test : นำองค์ประกอบต่างๆที่ถูกพัฒนาไปทำการทดสอบว่าใช้งานได้จริงหรือไม่
Integration Test : นำองค์ประกอบต่างๆที่ได้พัฒนามาทำการทดสอบระบบรวม
System Test : ระบบรวมเมื่อทำการทดสอบแล้วมันตอบโจทย์หรือไม่
Acceptance Test : ระบบรวมเมื่อทำการทดสอบแล้วมันตอบโจทย์ของผู้ใช้หรือไม่
หากทำการทดสอบเเล้วไม่ผ่านขั้นตอนใดให้ย้อนกลับไปทำข้อก่อนหน้าหนึ่งข้อช้ำอีกครั้งเพื่อให้ได้ระบบที่สมบูรณ์เเละตอบโจทย์ลูกค้าหรือผู้ใช้งาน
Writer — Thanyanin Ar.